ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทาง กาเร็ธ เซาท์เกท จะให้โอกาสตัวของ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาให้กับทีมชาติอังกฤษแทนที่ตัวของ จอร์แดน พิกฟอร์ด ที่กำลังฟอร์มตก แต่มันก็ยังมีอีกหลายๆเหตุผลเช่นกันที่ว่า พิกฟอร์ด ยังสมควรที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติก่อนหน้า ดีน ต่อไปก่อนในช่วงระยะนี้ ว่าแต่ว่ามันคือเหตุผลอะไรบ้างล่ะที่มันยังพอจะทำให้แฟนบอลยอมรับได้ เรามาดูกันเลย
เฮนเดอร์สัน ยังไม่มี “ภูมิคุ้มกัน” เวลาก่อความผิดพลาดของเขาเองในสนาม
เมื่อพิจารณาจากสถิติ เราสามารถสรุปได้อยู่ว่า พิกฟอร์ด และ เฮนเดอร์สัน อาจฝีมือในการเซฟประตูอยู่ในระดับใกล้เคียงกันและเมื่อพูดถึงทักษะการป้องประตูของพวกเขาเพรียวๆ เฉพาะในฤดูกาลปัจจุบันของพรีเมียร์ลีก ตัวของ พิกฟอร์ด ทำการเซฟประตูได้ 68 ครั้งเก็บคลีนชีทได้ 6 นัด ในขณะเดียวกัน เฮนเดอร์สัน ได้สร้างสถิติการเซฟประตูได้ 66 ครั้ง เก็บคลีนชีทได้ 9 นัด
พิกฟอร์ด เสียประตูไป 42 ประตู มากกว่าจำนวนที่เฮนเดอร์สันโดนเจาะประตูไป 20 ประตูด้วยกัน แต่มันก็ค่อนข้างยุติธรรมที่จะตำหนิว่าจุดอ่อนของกองหลังแบ็กโฟร์ของเอฟเวอร์ตันมันยุ่ยกว่ามาก เมื่อเทียบกับแนวรับของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในแง่ของการผ่านบอลก็เช่นกัน พิกฟอร์ด ทำสถิติเปิดบอล 874 ครั้งในฤดูกาลนี้โดยเฉลี่ยคือ 31.21 ครั้งต่อเกมโดยมีสถิติการเปิดบอลเข้าเป้า 231 ครั้ง
และในจุดนี้เองที่ เฮนเดอร์สัน มีสถิติที่ด้อยกว่า เมื่อเขาเปิดบอล 670 ครั้ง เฉลี่ยอยู่ที่ 25 ครั้งต่อเกม และการวางบอลยาวของเขานั้นมีความแม่นยำเพียง 181 ครั้งเท่านั้น สิ่งนี้ก่อให้เกิดคำถามว่า เซาท์เกท ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างทักษะการผ่านบอลของ พิกฟอร์ด หรือความสามารถในการเซฟประตูที่เชื่อถือได้มากขึ้นของ เฮนเดอร์สัน ต้องเข้าใจว่าถึงเว็บเบทระดับโลกหรือค่ายอื่นจะมีให้เล่นทั้งราคาต่อและรอง แต่กองเชียร์ทีมย่อมไม่อยากเล่นสวนทีมสุดที่รักของตน หากยังหาใครมาแทนไม่ได้อาจทำให้มูลค่าของทีมตกต่ำลงกว่านี้ มันเป็นการถกเถียงที่น่าสนใจจริงๆ เมื่อดูตรงจุดที่ว่าใครรับแรงกดดันได้มากกว่ากัน … ก็ตอบไม่ยากว่าคนที่มีชั่วโมงบินมากกว่าอย่าง พิกฟอร์ด ย่อมเหนือกว่าตอนนี้มันก็อยู่ที่ เซาท์เกท ว่าจะจัดการยังไง